ประวัติศาสตร์ 10 ถ้วยแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ของลิเวอร์พูล
สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (Liverpool Football Club) คือหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดของโลกฟุตบอล ไม่เพียงแค่ชื่อเสียงหรือแฟนบอลที่มีอยู่ทั่วโลก แต่สิ่งที่ทำให้ลิเวอร์พูลยืนหยัดอยู่ในจุดสูงสุดได้อย่างมั่นคง คือ “ความสำเร็จ” ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะ “10 ถ้วยแชมป์” ที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ตลอดกาล
บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยความทรงจำผ่าน 10 ถ้วยแชมป์ที่มีความสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นชัยชนะ แต่เพราะแต่ละถ้วยคือจุดเปลี่ยนของสโมสรอย่างแท้จริง
1. แชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรก (1900–01)
ถ้วยแชมป์ลีกครั้งแรกของลิเวอร์พูลในฤดูกาล 1900–01 คือจุดเริ่มต้นของตำนาน “หงส์แดง” แม้จะยังไม่เป็นชื่อที่คุ้นหูทั่วโลก แต่การคว้าแชมป์ดิวิชัน 1 (เดิม) ได้ในปีนั้น ถือเป็นประกาศศักดาว่าลิเวอร์พูลพร้อมขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลอังกฤษ
การคว้าแชมป์ครั้งนั้นเกิดขึ้นเพียง 9 ปีหลังจากก่อตั้งสโมสรในปี 1892 สะท้อนถึงรากฐานความแข็งแกร่งและการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ยุคแรก
2. แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ครั้งแรก (1976–77)
ฤดูกาล 1976–77 คือฤดูกาลแห่งประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูลอย่างแท้จริง เมื่อพวกเขาคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ (ปัจจุบันคือ UEFA Champions League) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยชัยชนะเหนือโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 3-1 ที่กรุงโรม
การคว้าแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่ครั้งแรกนั้น เปลี่ยนลิเวอร์พูลจากสโมสรอังกฤษระดับชาติ ให้กลายเป็นทีมชั้นนำของยุโรป ถือเป็นการเริ่มต้นของ “ยุคทองแห่งยุโรป” ภายใต้การคุมทีมของบ็อบ เพสลีย์
3. ทริปเปิลแชมป์ในประเทศ (1983–84)
ฤดูกาล 1983–84 เป็นหนึ่งในฤดูกาลที่น่าจดจำที่สุดของสโมสรลิเวอร์พูล พวกเขาคว้า 3 แชมป์ใหญ่ในประเทศและยุโรป ได้แก่:
- แชมป์ลีกสูงสุด (ดิวิชัน 1)
- แชมป์ลีกคัพ
- แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ (ครั้งที่ 4)
ชัยชนะเหนือโรมาในการดวลจุดโทษที่กรุงโรม (บ้านของโรมาเอง) เป็นหนึ่งในเกมตัดสินที่ตึงเครียดและทรงคุณค่ามากที่สุด ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมที่ไร้เทียมทานในอังกฤษและยุโรปในช่วงเวลาดังกล่าว และฤดูกาลนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในยุค 80
4. แชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งแรก (1964–65)
แม้ลิเวอร์พูลจะเคยประสบความสำเร็จในลีกก่อนหน้านี้ แต่ถ้วยเอฟเอ คัพ กลับหลุดมือไปหลายครั้ง จนกระทั่งฤดูกาล 1964–65 ภายใต้การคุมทีมของ บิล แชงคลี พวกเขาก็สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ โดยเอาชนะลีดส์ ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศ
ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการปลดล็อกถ้วยที่รอคอยเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำว่ายุคของแชงคลีคือจุดเริ่มต้นของอาณาจักรลิเวอร์พูลอย่างแท้จริง
5. แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 5 (2004–05)
นี่คือหนึ่งในค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลยุโรป — ปาฏิหาริย์แห่งอิสตันบูล
ลิเวอร์พูลตกเป็นฝ่ายตามหลังเอซี มิลานถึง 0-3 ในครึ่งแรก ก่อนที่พวกเขาจะตีเสมอ 3-3 ภายในเวลาเพียง 6 นาทีในครึ่งหลัง และคว้าชัยชนะในการดวลจุดโทษ
ชัยชนะครั้งนี้ไม่ได้แค่ทำให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ UCL สมัยที่ 5 เท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันถึง “จิตวิญญาณแห่งหงส์แดง” — ความไม่ยอมแพ้ และแรงศรัทธาที่แฟนบอลส่งถึงนักเตะได้จริง ๆ
6. แชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรก (2019–20)
ลิเวอร์พูลรอคอยแชมป์ลีกสูงสุดในชื่อ “พรีเมียร์ลีก” มายาวนานถึง 30 ปี จนกระทั่งในฤดูกาล 2019–20 ภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ พวกเขาทำลายคำสาปลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยฟอร์มสุดร้อนแรงและคะแนนที่ห่างคู่แข่งแบบขาดลอย
แม้จะเป็นฤดูกาลที่เกิดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ไม่มีสิ่งใดบดบังความยิ่งใหญ่ของความสำเร็จในปีนั้นได้ ลิเวอร์พูลได้พิสูจน์ว่าพวกเขากลับมาสู่จุดสูงสุดของวงการอีกครั้ง
7. ดับเบิ้ลแชมป์ เอฟเอ คัพ และลีกคัพ (2000–01)
ฤดูกาล 2000–01 คืออีกหนึ่งปีทองของลิเวอร์พูลในยุคสมัยของเชราร์ อุลลิเยร์ พวกเขาคว้า 3 แชมป์ ในฤดูกาลเดียวได้แก่:
- เอฟเอ คัพ (ชนะอาร์เซนอล)
- ลีกคัพ (ชนะเบอร์มิงแฮม)
- ยูฟ่า คัพ (ชนะอลาเบสในเกม 5-4 อันดุเดือด)
แม้จะไม่ได้แชมป์ลีกในปีนั้น แต่การคว้า “เทรเบิ้ลคัพ” ก็ทำให้ฤดูกาลนี้ถูกจดจำว่าเป็นช่วงเวลาที่ลิเวอร์พูลกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในช่วงเปลี่ยนศตวรรษ
8. แชมป์ยูโรเปียน ซูเปอร์คัพ (2019)
หลังคว้าแชมป์ UCL ในปี 2019 ลิเวอร์พูลได้ลงเล่นในถ้วยยูฟ่า ซูเปอร์คัพกับเชลซี และแม้การแข่งขันจะยืดเยื้อจนถึงการดวลจุดโทษ แต่หงส์แดงก็สามารถเฉือนชนะได้สำเร็จ
แม้จะเป็นรายการเล็กกว่ายูซีแอล แต่การคว้าแชมป์ซูเปอร์คัพครั้งนี้คือเครื่องตอกย้ำว่า ลิเวอร์พูลภายใต้คล็อปป์กำลังเดินหน้าไล่ล่าทุกแชมป์จริงจังอีกครั้ง
9. แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (2019)
อีกหนึ่งความสำเร็จที่แฟนหงส์รอคอย — ลิเวอร์พูลกลายเป็นแชมป์โลกอย่างเป็นทางการในปี 2019 โดยเอาชนะฟลาเมงโก ทีมแชมป์อเมริกาใต้จากบราซิลในรอบชิงฯ
ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นถ้วยระดับโลกที่สโมสรยังไม่เคยคว้ามาก่อน และมันยิ่งทำให้ฤดูกาล 2019 กลายเป็นฤดูกาลในฝันของแฟนบอลทั่วโลก
10. คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ (ฤดูกาล 2021–22)
แม้จะไม่ใช่ฤดูกาลที่คว้าทุกแชมป์ แต่ลิเวอร์พูลสามารถคว้า “ดับเบิ้ลคัพ” ในประเทศได้อีกครั้ง โดยเอาชนะเชลซีในรอบชิงฯ ทั้งสองรายการ — ผ่านการดวลจุดโทษทั้งคู่
สิ่งที่น่าจดจำคือ ความกล้าของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ไว้ใจดาวรุ่งผสมแข้งหลักอย่างลงตัว และแสดงให้เห็นว่าลิเวอร์พูลมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งเพียงใดในยุคปัจจุบัน
บทสรุป: มากกว่าคำว่าแชมป์ คือจิตวิญญาณ
ในแต่ละถ้วยแชมป์ที่กล่าวมา ไม่ได้เป็นเพียง “ถ้วยรางวัล” หากแต่คือการเดินทางของผู้คน — นักเตะ, โค้ช, และแฟนบอล ที่รวมใจเป็นหนึ่งเดียว
ลิเวอร์พูลไม่ได้เป็นแค่ทีมฟุตบอล แต่คือวัฒนธรรม ความเชื่อ และพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่ส่งต่อมานานกว่า 130 ปี และจะยังคงยืนหยัดต่อไปด้วยเสียงเพลง “You’ll Never Walk Alone” ที่ดังก้องไปทั่วโลก
