เมษายน 2, 2025

ประวัติสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 ประวัติสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

LONDON, ENGLAND – FEBRUARY 26: Bruno Fernandes and Raphael Varane of Manchester United celebrate with the Carabao Cup trophy following victory in the Carabao Cup Final match between Manchester United and Newcastle United at Wembley Stadium on February 26, 2023 in London, England. (Photo by Eddie Keogh/Getty Images)

ประวัติสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

จุดเริ่มต้นของตำนาน (1878-1902)

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1878 ภายใต้ชื่อ นิวตัน ฮีธ แอลวายอาร์ เอฟซี (Newton Heath LYR F.C.) โดยเป็นทีมฟุตบอลของพนักงานรถไฟสายแลงคาเชียร์และยอร์กเชียร์ ในช่วงแรก สโมสรแข่งขันในลีกท้องถิ่นและประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก จนกระทั่งในปี 1902 ทีมเกือบต้องยุบตัวลง แต่ได้รับความช่วยเหลือจากนักธุรกิจ จอห์น เฮนรี่ เดวีส์ ที่เข้ามาซื้อกิจการและเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ

แมนยู

ยุคบุกเบิกและความสำเร็จแรก (1902-1945)

หลังจากเปลี่ยนชื่อ สโมสรเริ่มสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งขึ้น และในปี 1908 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษเป็นครั้งแรก ตามมาด้วย แชมป์เอฟเอคัพในปี 1909 อย่างไรก็ตาม สโมสรเผชิญกับปัญหาทางการเงินและความไม่แน่นอนจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง ส่งผลให้ทีมต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในช่วงทศวรรษที่ 1920-1940

ยุคเซอร์แมตต์ บัสบี้ (1945-1969) – สร้างรากฐานของทีมระดับตำนาน

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แต่งตั้ง เซอร์แมตต์ บัสบี้ เป็นผู้จัดการทีมในปี 1945 บัสบี้เป็นกุนซือที่มีแนวคิดล้ำสมัย เน้นการพัฒนานักเตะเยาวชนขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ ทีมของเขาได้รับฉายาว่า “Busby Babes” เนื่องจากเต็มไปด้วยนักเตะหนุ่มมากความสามารถ

ความสำเร็จที่โดดเด่นในยุคนี้ ได้แก่ แชมป์ลีกอังกฤษในปี 1952, 1956 และ 1957 อย่างไรก็ตาม ในปี 1958 เกิดโศกนาฏกรรมที่เปลี่ยนแปลงสโมสรตลอดกาล เหตุการณ์เครื่องบินตกที่มิวนิก ทำให้ผู้เล่นหลักของทีมเสียชีวิตไปหลายคน บัสบี้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนั้นและใช้เวลาหลายปีในการสร้างทีมขึ้นมาใหม่

ปี 1968 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมแรกของอังกฤษที่คว้าแชมป์ ยูโรเปียน คัพ (ปัจจุบันคือ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก) โดยมีนักเตะดาวดังอย่าง จอร์จ เบสต์, บ็อบบี้ ชาร์ลตัน และเดนิส ลอว์ เป็นแกนหลักของทีม

ยุคหลังบัสบี้และช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก (1969-1986)

หลังจากความสำเร็จในยุคของบัสบี้ สโมสรต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน เปลี่ยนผู้จัดการทีมหลายคน และไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ ทีมยังคงมีนักเตะที่มีชื่อเสียง เช่น ไบรอัน ร็อบสัน แต่ยังคงตามหลังคู่แข่งสำคัญอย่างลิเวอร์พูลในช่วงเวลานั้น

ยุคทองของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (1986-2013)

ปี 1986 สโมสรแต่งตั้ง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นผู้จัดการทีม และนี่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฟอร์กูสันสร้างทีมที่แข็งแกร่ง โดยเน้นพัฒนานักเตะเยาวชนควบคู่ไปกับการเสริมทัพนักเตะระดับโลก

ความสำเร็จที่โดดเด่นในยุคเฟอร์กูสัน

  • แชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัย (1992–93, 1993–94, 1995–96, 1996–97, 1998–99, 1999–2000, 2000–01, 2002–03, 2006–07, 2007–08, 2008–09, 2010–11, 2012–13)
  • แชมป์เอฟเอคัพ 5 สมัย
  • ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2 สมัย (1998-99, 2007-08)
  • ทริปเปิลแชมป์ในปี 1999 (พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก)

นักเตะระดับตำนานในยุคนี้ ได้แก่ เอริก คันโตน่า, ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์, เดวิด เบ็คแฮม, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และเวย์น รูนีย์

ปี 2013 เฟอร์กูสันประกาศเกษียณหลังจากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และนี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสโมสร

ยุคหลังเฟอร์กูสันและความท้าทายใหม่ (2013-ปัจจุบัน)

หลังการอำลาของเฟอร์กูสัน สโมสรต้องเผชิญกับปัญหาในการหาผู้จัดการทีมที่สามารถพาสโมสรกลับไปสู่ความยิ่งใหญ่

ผู้จัดการทีมหลังยุคเฟอร์กูสัน

  • เดวิด มอยส์ (2013-2014) – ทำผลงานไม่ดีและถูกปลดหลังจากหนึ่งฤดูกาล
  • หลุยส์ ฟาน กัล (2014-2016) – พาทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2016
  • โชเซ่ มูรินโญ่ (2016-2018) – คว้าแชมป์ยูโรปาลีกและลีกคัพในปี 2017
  • โอเล่ กุนนาร์ โซลชา (2018-2021) – ฟื้นฟูทีมและพาแมนยูจบอันดับสองในพรีเมียร์ลีก
  • เอริก เทน ฮาก (2022-ปัจจุบัน) – เข้ามาปรับปรุงทีมและพาทีมคว้าแชมป์คาราบาว คัพในปี 2023

สถานะปัจจุบันและอนาคตของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน พยายามหาสมดุลระหว่างการพัฒนาเยาวชนและการซื้อตัวนักเตะระดับโลก สโมสรยังคงเป็นหนึ่งในทีมที่มีแฟนบอลมากที่สุดในโลก และยังคงมีเป้าหมายในการกลับไปสู่จุดสูงสุดของฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง

ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และฐานแฟนบอลที่แข็งแกร่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นสโมสรที่มีอิทธิพลในวงการฟุตบอล และแฟนบอลทั่วโลกยังคงเฝ้ารอการกลับมาสู่ยุคทองอีกครั้งของทีมปีศาจแดง